ผู้นำและการบริหารงานคุณภาพ

หลักการและเหตุผล

หลักการพัฒนาองค์การให้เข้มแข็งต้องอาศัยปัจจัยสำคัญหลายด้านที่จะปรับปรุงให้องค์กร ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับปรุงและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของพนักงาน องค์กรที่สามารถเชื่อมโยงเรื่องความผูกพัน ค่านิยม วัฒนธรรมและเป้าหมายขององค์การที่นำไปสู่ การหล่อหลอมจิตวิญญาณในการทำงานซึ่งมีความสำคัญต่อทัศนคติและความพึงพอใจของพนักงาน ทั้งนี้ การสร้างจิตวิญญาณในการทำงานต้องอาศัยพื้นฐานมาจาก การสร้างรากฐานของวัฒนธรรมและสังคมการทำงานที่มีคุณภาพแข็งแกร่งและเชื่อมโยงถึงกันอันจะ ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการ โดย วัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้และพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่ก้าวหน้าจะมี ความสัมพันธ์ต่อการเกิดจิตวิญญาณในการทำงาน

ดังนั้น จึงอาจกล่าวอีกนัยนึงได้ว่าจิตวิญญาณในการทำงานกับการบริหารงานนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน เพราะ จิตวิญญาณเป็นเรื่องที่หากเข้าถึงได้อย่างถ่องแท้จะทำให้เข้าใจความหมายของการดำรงอยู่ขององค์กร อันจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะและวิถีชีวิตการทำงานได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง การส่งเสริมเรื่อง จิตวิญญาณในการทำงานยังช่วยสร้างสังคมการทำงานที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะซึมทราบเข้าไปในกระบวนการทำงาน และสะท้อนออกมาให้เห็นเป็นคุณค่าอย่างชัดเจน นอกจากนี้ การพัฒนาและกระตุ้นเรื่องวัฒนธรรมองค์การและจิตวิญญาณในการทำงานยังส่งผลในเชิงบวกต่อผล การปฏิบัติงานของพนักงานในระยะยาว เช่น ความสามารถในการผลิตผลงานที่มีศักยภาพมากขึ้น

หลักสูตรนี้ได้ถูกแบบขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อองค์กรที่ประสบปัญหาในการพัฒนาทรัพยกรบุคคลแบบยั่งยืน เพราะองค์กรใดมีพนักงานที่เก่งงาน แต่ไม่มีจิตวิญญาณ รักงานที่ทำหรือรักองค์กร องค์กรนั้นแสดงให้เห็นว่าขาดระบบการบริหารจัดการทีมงานไม่มีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์ของการฝึกอบรม

  1. เพื่อเสริมสร้างและปลูกฝังจิตวิญญาณในการทำงานแบบรักองค์กร
  2. เพื่อพัฒนาทักษะด้านการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารภายในทีม
  3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจและนำทฤษฎีที่เกี่ยวข้องไปใช้ในการทำงาน
  4. เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความสามารถในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ทฤษฎีที่นำมาใช้ (5 ทฤษฎี)

  1. ทฤษฎีการเรียนรู้แบบสังคมสัมพันธ์ (Social Learning Theory)
  2. ทฤษฎีนี้ช่วยให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงการเรียนรู้ผ่านการสังเกตและการจำลองแบบพฤติกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม
  3. ทฤษฎีการพัฒนาเขตประสบการณ์ใกล้เคียง (Zone of Proximal Development)
  4. ทฤษฎีนี้ใช้ในการออกแบบกิจกรรมที่ท้าทายผู้เข้าอบรมให้เรียนรู้ในระดับที่สูงขึ้น ผ่านการทำงานร่วมกัน
  5. องค์กรแห่งการเรียนรู้(Learning Organization)
  6. GROW Model
  7. SMART GOAL สำหรับการตั้งค่าโค้ช
  8. ทักษะการบริหารงานสื่อสารแบบ HO-REN-SO
  9. Taps Model

จุดเด่นของหลักสูตร

  • มีการผสมผสานระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติที่สมดุล สนุก มีส่วนร่วม ส่งเสริมแนวทางการใช้งานจริง
  • การใช้กิจกรรมกลุ่มเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ผ่านการทำงานร่วมกัน แบบมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น
  • การมีผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานเป็นทีมเป็นผู้คอยแนะนำ
  • มีการแนะนำเพื่อการปรับปรุงหลังทำกิจกรรม ด้วยการเสนอแนวทางอย่างสร้างสรรค์
  • มีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือสมัยใหม่เป็นตัวช่วย เช่น แบบทดสอบจิตวิทยาพิเศษ

ขอแนะนำหลักสูตรนี้สำหรับ

  • ผู้บริหาร/ผู้จัดการ/หัวหน้างาน
  • พนักงานฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล(HR)
  • พนักงานทุกแผนก
  • บุคคลทั่วไปที่ต้องการมีทักษะในการเป็นผู้นำ

การพัฒนาและออกแบบหลักสูตรจากองค์ความรู้และการฝึกอบรมจากสถาบันชั้นนำระดับโลก

  • Effective Problem-Solving and Decision-Making (University California, Irvine)
  • Conflict Management (University California, Irvine)
  • Managing Emotions in Times of Uncertainty &Stress (Yale University)
  • Leading People and Teams Specialization (University of Michigan)

ช่วงเวลาการฝึกอบรมและกิจกรรม

ช่วงเวลาหัวข้อ/เนื้อหากิจกรรม
9.00-10.30ช่วงที่ 1:สร้างจิตวิญญาณผู้นำ เพื่อการบริหารงานแบบทีม ปลูกฝังจิตวิญญาณ เพื่อการทำงานแบบCEOการสร้างจิตวิญญาณการทำงานเชิงรุก(Mindset)Learning Organization สร้างทีมงานแห่งการเรียนรู้ภาวะผู้นำเชิงรุกยุคใหม่(Leader VS Leadership)แนวทางในการบริหารงานกับคนต่างวัยไหวพริบและความฉลาดในการปรับอารมณ์จิตวิทยาการสื่อสารทางดวงตาแบบบัญชาการ        กิจกรรมละลายพฤติกรรม >>เริ่มต้นด้วยกิจกรรมเปิดใจ ทะลายกำแพงด้วยกิจกรรมสันทนาการ สนุกสนาน มีส่วนร่วมเช่น สร้างป้อมปราการด้วยคำพูดเชิงบวก กิจกรรมเดี่ยว>> แบบทดสอบจิตวิทยาจากสื่อมีเดียว เพื่อค้นหาอายุสมอง และความคิดของตนเอง ว่าอายุสมองเท่าอายุจริงหรือไม่
10.30-10.45พักเบรก 15 นาที
10.45-12.00ช่วงที่ 2: บทบาทของผู้นำทีมเพื่อ ”การบริหารงานคุณภาพ” บทบาทของผู้นำเชิงกลยุทธ์อำนาจของผู้นำแบบสมดุลเทคนิคการวางแผนสู่เป้าหมายที่วัดได้แนวทางการกระจายงาน(Organizing)กระบวนการสื่อสารเพื่อสั่งงานอย่างสร้างสรรค์5A เพื่อการแก้ไขงานอย่างมีระบบ  กิจกรรมกลุ่ม(Brain Stroming)>> ฝึกการวางแผนเชิงกลยุทธ์แบบมีส่วนร่วม แสดงบทบาท และความคิดเห็นร่วมกัน โดยนำหลักการที่เรียนมา เพื่อใช้ในการวางแผนและลงมือทำอย่างมีระบบด้วย SMART GOAL ตามโจทย์ที่ได้รับ **วิทยาการสรุปแนวทางเพื่อนำไปใช้งาน จากกิจกรรม**
12.00-13.00พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00-14.30ช่วงที่3: ศิลปะการสื่อสารเพื่อการบริหารและการสร้างทีม 6 ระดับความสัมพันธ์ในองค์กรนัยยะสำคัญของการสื่อสารบริหารทีมMBA กับศาสตร์การบริหารทีมงานทักษะการสื่อสารทางกายและการวางตัวทักษะการบริหารงานสื่อสารแบบ HO-REN-SOจิตวิทยาการสร้างสภาวะไร้แรงกดดันในการบัญชาการการสร้างแรงจูงใจ เพิ่มพลัง สร้างความหวังในการทำงานสื่อสาร 3 ทิศทางกับ 3 SMARTกิจกรรมกลุ่ม พลังแห่งการส่งสาร เป็นจำลองสถานการณ์และให้ผู้อบรม ฝึกส่งสารแบบผู้นำทีม ซึ่งจะประกอบไปด้วย หลายองค์ประกอบที่สำคัญ **วิทยาการสรุปแนวทางเพื่อนำไปใช้งาน จากกิจกรรม**
14.30-14.45พักเบรก 15 นาที
14.45-16.00ช่วงที่ 4: เรียนรู้เขา และเข้าใจเกี่ยวกับการ Coaching การพัฒนาบุคลากรแบบ 70-20-10 Generation Mix Performance/Potential ความต้องการหลักของคน/Core Needs แนวทางการCoach งานให้ตรงคน Taps Model กฎของการโค้ช กระบวนการโค้ช GROW Model SMART GOAL สำหรับการตั้งค่าโค้ช  กิจกรรมกลุ่มพิเศษ>> การกำหนดบทบาทสมมติในการสอนงามกับคนที่มีการทำงาน และการเรียนรู้ที่แตกต่าง โดยการนำทักษะสำคัญที่ได้จากการเรียนรู้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด   **วิทยาการสรุปแนวทางเพื่อนำไปใช้งาน จากกิจกรรม**  

แชร์ :

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ครูโต๋ เสฏฐ์ธนา วิทยากร

วิทยากรและที่ปรึกษาภาครัฐและเอกชน

Facebook
LinkedIn